ฟอร์ด ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไทยอีกครั้ง ประกาศทำตลาดรถสองรุ่นใหม่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค และฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้รถที่มีสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 ผู้ที่สนใจจองผ่านช่องทางออนไลน์ www.ford.co.th ได้พร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม จะมีจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 350 คันเท่านั้น1
“ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการมอบตัวเลือกที่โดนใจลูกค้า เราเชื่อมั่นว่าฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค และฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 จะสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และได้รับผลตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ฟอร์ดที่รอคอยรถทั้งสองรุ่นนี้ ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ล้ำไปอีกขั้น และเทคโนโลยีอันเหนือชั้นที่ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตของลูกค้าไปอีกระดับ” นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6 รถกระบะรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ ยกระดับความแกร่งไปอีกขั้นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ที่ได้รับความนิยมมายาวนานในต่างประเทศ มีความเสถียรและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังและแรงบิดมากขึ้นสำหรับการลากจูงและการขับขี่แบบออฟโรด ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter มอบพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร มาพร้อมล้ออัลลอย 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และตราสัญลักษณ์ วี 6 โดดเด่นบนช่องระบายอากาศด้านข้างตัวถัง ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถเมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน และกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB รวมถึงเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบเบรครถอัตโนมัติชั่วคราว (Auto Brake Hold) ตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาทางเลือกในการใช้รถที่มีสมรรถนะสูงขึ้น พร้อมเป็นรถคู่ใจในทุกเส้นทางของชีวิต โดยฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6 ใหม่ จำหน่ายในราคา 1,519,000 บาท และมีสีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเหลือง ลักซ์ เยลโลว์ สีขาว อาร์คติค ไวท์ สีเทา เมทิเออร์ เกรย์ และสีดำ แอบโซลูท แบล็ค
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่พัฒนาขึ้นด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น เรียบหรูตามแบบฉบับแพลทินัม มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter มอบพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรา ตั้งแต่กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทตินัม พร้อมตัวอักษร PLATINUM สีโครเมียม 3 ตำแหน่งบนฝากระโปรงหน้า บานประตูคู่หน้า และฝาท้าย หลังคาสีดำ (Black Roof) ตราสัญลักษณ์ วี 6 โดดเด่นบนช่องระบายอากาศด้านข้างตัวถัง และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 275/45 R21 สะท้อนถึงความสปอร์ตและหรูหรา พร้อมระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถ เมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง หรูหรา สะดวกสบาย เบาะหนังสีดำตกแต่งโลโก้ซิกเนเจอร์ PLATINUM เป็นเอกลักษณ์ เบาะนั่งคนขับและเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบปรับอากาศและระบบบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง เบาะนั่ง 2 แถวหน้ามีชุดทำความร้อนและระบายอากาศที่ควบคุมได้ผ่านหน้าจอ SYNC และยังมีฟังก์ชันการปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งให้เข้าออกสะดวกสำหรับเบาะนั่งคนขับ (Easy Entry and Exit) รวมถึงระบบเสียง Bang & Olufsen® ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหาความเป็นเลิศในการใช้ชีวิตขณะที่ยังคงแสวงหาการผจญภัย ด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีเหนือชั้น พร้อมดีไซน์ที่เน้นความเท่ ดุดัน เรียบหรู โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม วี 6 จะจำหน่ายในราคา 2,279,000 บาท และมีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก สีเทา เมทิเออร์ เกรย์ สีดำ แอบโซลูท แบล็ค สีน้ำตาล อีควิน็อคซ์ บรอนซ์ และสีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล
ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับรถฟอร์ด รุ่นย่อยใหม่ ได้ทางเว็บไซต์ฟอร์ด www.ford.co.th และช่องทางโซเชียลมีเดียของฟอร์ด ประเทศไทย ทั้ง Facebook ฟอร์ด, YouTube Ford Thailand, TikTok Ford Thailand และ Line @FordThailand ผ่านแฮชแท็ก #FordLevelsUp #RangerV6 #EverestV6 #YouCantFakeTough
1 การส่งมอบรถจะพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึง ลำดับการจองจาก www.ford.co.th การได้รับอนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนรถและสีที่พร้อมส่งมอบ ทั้งนี้ ระยะเวลาส่งมอบอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามระยะทางของจังหวัดที่มีการส่งมอบ