เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP31 : “อิสตันบูล, ตุรกี-พลอฟดิฟ, บัลแกเรีย”
โดย : โบ๊ท-มหาสมุทร สายสวรรค์
วันนี้เราก็ชมวิว แล้วขับเข้าไปจนถึงบัลกาเรีย ดินแดนนมเปรี้ยว ชมๆกันไป บัลแกเรียเป็นประเทศที่ผู้คนแข็งแรง อดทน เสรีภาพก็ไม่น้อยนะ รณชิตรักบัลแกเรีย
รณชิต เฉลิมชาติ เด็กสร้างของพ่อไกรสิงห์และแม่บุญเรือง
อ่าน เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP27 “อาดิยามัน-แคปปาโดเจีย, ตุรกี”
วันที่ 7 กรกฏาคม 2559 : อันเป็นวันที่ 35 ของการเดินทาง..เวลามีน้อย จงใช้สอยให้คุ้มค่า..วันนี้เรามีเวลาสำรวจเมืองอิสตันบูล Istanbul ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นครับ
อิสตันบูล Istanbul เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุด และเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในตุรกี อิสตันบูลตั้งอยู่ริมช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus เดิมชื่อว่า คอนสแตนติโนเปิล Constantinople อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูล มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ไบแซนไทน์ คอนสแตนติโนเปิล สแตมโบล และอิสลามบูล เป็นต้น
อาณาเขตคือทิศเหนือจรดทะเลดำ Black Sea ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดโคจาเอลลี Kocaeli และทะเลมาร์มารา Marmara ฝั่งตะวันตกติดกับจังหวัดเทคีร์ดาก์ Tekirdag และจังหวัดคีร์คลาเรลี Kirklareli มีพื้นที่รวมเกาะมาร์มารา Marmara Island ซึ่งได้สมญานามว่าเป็นเกาะเจ้าชาย Princess’Island 5,712 ตารางกิโลเมตร
อิสตันบูลเป็นเมืองเดียวของตุรกีที่มีพื้นที่อยู่ใน 2 ทวีปคือทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) และทวีปยุโรป (ฝั่งเทรซ Trace ของบอสฟอรัส) โดยทั้ง 2 ทวีป ถูกแบ่งออกจากกันโดยช่องแคบบอสฟอรัส ทะเลามาร์มารา และช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปขึ้นสะพานที่ช่องแคบบอสฟอรัส ข้ามจากฝั่งเอเชีย สู่ฝั่งยุโรปกันด้วย
วันนี้เราไปสำรวจชมวิวเมืองอิสตันบูลในยามเช้า ที่ริมฝั่งบนสะพานกาลาตา Galata Bridge ซึ่งจะเห็นอาคารบ้านเรือนสวยๆของเมืองอิสตันบูล เรียงรายลดหลั่นกันตามแนวเขามาจนถึงชายฝั่ง บางช่วงจะเห็นมัสยิดและสุเหร่าตั้งตระหง่านเป็นพื้นหลังให้กับเมืองสุดคลาสสิกแห่งนี้อย่างสวยงามกับแสงแรกของวัน รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนเมือง ซึ่งจะมีผู้คนมากหน้าหลายตามายืนตกปลากันอยู่เต็มสะพาน บ้างก็เพื่อการค้า บ้างก็ตกไว้กินเอง เป็นภาพที่แปลกตาดีเหมือนกัน
จากนั้นก็ได้มีโอกาสไปสำรวจสุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque หรือชื่อเดิมคือ สุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 Sultan Ahmed Mosque โดยสุเหร่านี้สร้างในปีพ.ศ.2152 (ค.ศ.1609) เสร็จปีพ.ศ.2159 (ค.ศ.1616 หรือ1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวดอยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินก็เพราะว่าภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา..เมื่อได้เวลา เราก็กลับมาโรงแรม เตรียมเดินทางข้ามแดนกันอีกครั้ง!
คราวนี้ชาวคณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ได้ขึ้นสะพานผ่านทางช่องแคบบอสฟอรัสที่คั่นกลางระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรป กลางกรุงอิสตันบูล และได้ชมวิวที่สวยงามเบื้องล่างอีกด้วย
เราออกห่างจากเมืองอิสตันบูลเรื่อยๆ จนมาถึงด่านขาออกจากประเทศตุรกี ซึ่งในส่วนของขั้นตอนนั้น การตรวจคนค่อนข้างสะดวก แค่ยื่นพาสปอร์ตให้แล้วก็แสตมป์ จบข่าว แต่รถนั้นต้องเข้าเครื่องสแกนประมาณสองตลบ หากสแกนผ่านก็แป๊บเดียว ถ้าเจอแป้งก็นึกภาพไม่ออกว่าเกมนี้จะลงเอยอย่างไร ในคาราวานรีโว่ 10 คัน นั้นมี 3 คันที่โดนรื้อค้นแบบเข้มข้น ซึ่งกินเวลานานมาก หลายคนจึงได้พักผ่อนเอนกายภายในรถ ใช้ชีวิตอยู่ได้สบาย พื้นที่กว้างขวาง เปิดบลูธูทฟังเพลง บ้างก็เอาโน้ตบุคมาเสียบช่องปลั๊กชาร์จไฟที่กล่องเก็บของตรงคอนโซลกลางเพื่อทำงาน ช่องวางกาแฟ ที่วางขวดตรงประตูถูกใช้อย่างเต็มอัตรา
เวลาผ่านไปช้าๆปานนาฬิกาใกล้หมดถ่าน จนกระทั่งรถทุกคนผ่านด่านตรวจได้สมบูรณ์ ก็มุ่งหน้าสู่ด่านขาเข้าประเทศบัลแกเรีย Bulgaria กันบ้าง ซึ่งขั้นตอนเร็วกว่าที่คิด ไม่มีการค้นรถ แค่เสียเวลาเช็คเอกสารนิดหน่อยเท่านั้น คล้ายๆกับว่าด่านของสองประเทศนี้ น่าจะมีการช่วยเหลือกันในบางขั้นตอน ทำให้เสร็จเร็วกว่าที่คิด..ในที่สุดตอนนี้ ไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ได้ข้ามมาสู่ทวีปยุโรปเป็นประเทศที่สอง เรียบร้อยเมืองนมเปรี้ยว !!
สวัสดี..ประเทศบัลแกเรีย หรือ สาธารณรัฐบัลแกเรีย Republic of Bulgaria เป็นประเทศตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีชายฝั่งติดกับทะเลดำทางทิศตะวันออก มีพรมแดนติดต่อกับประเทศกรีซและประเทศตุรกีทางตอนใต้ และติดต่อกับประเทศเซอร์เบียและประเทศมาซิโดเนียทางทิศตะวันตก บัลแกเรียมีชื่อเสียงในเรื่องของนมเปรี้ยว และโยเกิร์ต เป็นอย่างมาก
เป้าหมายของเราคือเมืองพลอฟดิฟ Plovdiv ซึ่งกว่าจะขับมาถึงก็ดึกมากแล้ว วันนี้หลังจากทานอาหารค่ำมื้อดึกเสร็จ จึงพักผ่อนนอนหงายไข่ห้อยกันไป
