เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP27 : “ตอนที่ 27 : อาดิยามัน-แคปปาโดเจีย, ตุรกี”
โดย : โบ๊ท-มหาสมุทร สายสวรรค์
อ่าน เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP26 “มาร์ดิน-อาดิยามัน, ตุรกี”
วันที่ 3 กรกฏาคม 2559 : ได้เวลามุ่งหน้าสู่อีกหนึ่งมรดกโลกของประเทศตุรกี ที่นี่จัดว่าเป็นสถานที่ในฝันของคนไทยหลายๆคน ที่อยากจะมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง นั่นคือ แคปปาโดเจีย Cappadocia
ระบบตื่นนอนเตรียมตัวหลักๆ ที่เราจะใช้นัดกันคือ 6-7-8 หรือไม่ก็ 7-8-9 เป็นเวลาตื่น-กิน-และออกเดินทาง วันนี้ระบบแรกได้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง กับวันฟ้าใส อากาศดี ที่คาราวานรีโว่ได้ล้อหมุนกันในตอน 8 โมงเช้า
เส้นทางหลักเป็นถนน 4 เลน ท่ามกลางความสวยงามของวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ซึ่งเป็นที่ราบแล้งๆบ้าง บางช่วงก็มีต้นไม้และทุ่งหญ้าสีเขียวสลับเหลืองมาแทนที่ เรามีการจอดแวะพักภ่ายภาพกันเช่นเคย เส้นนี้หลายๆครั้งโค้งค่อนข้างกว้างแต่องศาไม่ลาดรับ รีโว่ก็โชว์ความหนึบกันไป บวกกับระบบเกียร์ที่จะเลือกอัตราทดเกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็ว ช่วยให้ผู้ขับลดการเหยียบเบรคขณะขับอยู่กลางโค้งที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ขับกันมาตามทางเรื่อยๆ ไม่นานก็เริ่มเห็นแท่งหินรูปร่างประหลาด อันเป็นเครื่องบ่งบอกว่านี่เรามาถึงที่แคปปาโดเจียแล้ว
เมืองแคปปาโดเจียเป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว หืมมนานนนมากกก ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณ ทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันประสานพลังกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรงเท่าที่เราจะสามารถจินตนาการ ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” Fairy Chimney
เราเข้ามาถึงช่วงเย็นๆ จึงมีเวลาแวะไปใกล้ชิดมรดกโลกแห่งนี้กันเพียงหนึ่งจุด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แปลกตาไม่น้อย กับแท่งหินหน้าตาประหลาดๆ งงๆชีวิตแบบนี้ บางแท่งมีช่องที่คนสมัยก่อนเข้าไปอยู่อาศัยจริง บางอันก็เป็นโบสถ์
เมื่อสมควรแก่เวลา คณะคาราวานรีโว่จึงขับรถกลับโรงแรม ซึ่งโรงแรมที่เรานอนวันนี้ถือว่าพิเศษไม่น้อย เพราะโรงแรมเป็นแบบถ้ำ มีชื่อว่า Gamirasu cave hotel สภาพอาคารทำด้วยหิน และมีการเจาะถ้ำเข้าไปสร้างห้องนอนกันในนั้น และพวกเราก็ได้ไปนอนในนั้นด้วย ห้องนอนสวยงาม ตกกลางคืนอากาศเย็นสบายๆ มีกลิ่นอายของถ้ำเล็กน้อย ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินยังได้ฟินกับวิวสวยๆ จากที่พัก
ช่วงเย็นเราได้จองบอลลูน Balloon สำหรับขึ้นในเช้าของวันถัดไปกัน นี่คือ A must หรือสิ่งที่ต้องทำอย่างนึง ของแคปปาโดเจีย โดยมีค่าเสียหายอยู่ที่คนละ 140 ยูโร (1 ยูโร ประมาณ 38 บาท) ตอนนี้หลังจากทานข้าวก็ได้เวลาเข้าถ้ำนอน
พรุ่งนี้จะพาไปชมวิวเมืองแคปปาโดเจียแบบ 360 องศา เมื่อมองจากบอลลูน !!