เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP26 : “ตอนที่ 26 : มาร์ดิน-อาดิยามัน, ตุรกี”
โดย : โบ๊ท-มหาสมุทร สายสวรรค์
อ่าน เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP25 “ดอกูบายาซิต-มาร์ดิน, ตุรกี”
วันที่ 2 กรกฏาคม 2559 : หลังจากเมื่อวานเรามาถึงเมืองมาร์ดิน Mardin กันตอนค่ำๆ จึงยังไม่มีโอกาสเดินย่ำ หรือสัมผัสกับเมืองนี้เท่าใดนัก วันนี้ในตอนเช้าคือเวลาที่เราจะใช้ในการสำรวจเมืองมาร์ดิน
เมืองมาร์ดิน ตั้งอยู่บนที่ราบเมโสโปเตเมีย และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุคนั้น อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศตุรกี เป็นเมืองโบราณ และมีสถาปัตยกรรม คือการสร้างขึ้นมาจากหินสีทองจางที่นำมาวางซ้อนๆกันอย่างสวยงาม กับบ้านที่ไล่ลงมาเป็นชั้นๆตามแนวผา ซึ่งพวกซากเมืองที่เหลืออยู่นี้ มีอายุย้อนไปถึง 4,000 ปี เลยทีเดียว หลายๆหลังก็มีการบูรณะต่อเติมบ้าง แต่ยังคงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ และความคลาสสิกมาจนทุกวันนี้ รวมทั้งมีชื่อเสียงในเรื่องเครื่องประดับ ถั่วพิสตาซิโอ และละครซีรี่ส์หลายๆเรื่อง
ที่น่าหวาดเสียวคือ เมืองนี้อยู่ห่างจากพรมแดนซีเรียเพียงแค่ไม่กี่สิบกิโลเมตร โดยมีภูเขากั้นอยู่แค่นั้น ในช่วงเช้าก่อนออกเดินทาง เรามีโอกาสสัมผัสเมืองมาร์ดินกันเล็กน้อย โดยได้เดินเล่นในเขตเมืองเก่า รวมทั้งโต๋เต๋ไปตามจุดชมวิวสวยๆ ที่จะได้เห็นบ้านเรือนลดหลั่นกันตามไหล่เขา ได้มองวิวจากข้างบนลงมาเห็นที่ราบและขุนเขาที่สวยงาม
จากนั้นจึงออกเดินทางกันต่อ โดยปลายทางวันนี้คือเมืองอาดิยามัน Adiyaman (เหมือนจะออกเสียงเป็น อา “ดึ” ยามัน) ซึ่งเป็น 1 ใน 81 จังหวัดของตุรกี อยู่ห่างออกไป 441 กิโลเมตร และระหว่างทางเราจะแวะเที่ยวหุบเขาเทพเจ้าบนยอดเขาเนมรุต Nemrut กันด้วย
เส้นทางช่วงแรกเป็นถนนสี่เลนขับผ่านที่ราบ บางช่วงก็เป็นเมือง ขับลมโชยเกศามาไม่นานก็เที่ยงพอดี วันนี้เป็นอีกครั้งที่เราแวะทานข้าวระหว่างทาง กับบรรยากาศดีๆ ที่เขื่อนอาตาเติร์ก Ataturk ซึ่งใหญ่ที่สุดในตุรกี น้ำในเขื่อนนี้มีสีสันสวยงามมาก คล้ายๆกับสีของทะเลสาบแวน Van ที่เราผ่านกันมาเมื่อวานนี้เลย
เมื่ออิ่มท้องก็ออกเดินทางต่อ จนกระทั่งมาถึงจุดขึ้นเขา เส้นทางเป็นโค้งชันเล็กน้อย ก็ได้อาศัยช่วงล่างที่หนึบของเจ้ารีโว่ จึงผ่านมาได้อย่างไร้ปัญหา รวมถึงระบบเปลี่ยนเกียร์ Sequential ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ ได้เหมาะสมกับความเร็วอย่างไม่ยาก วิวสองข้างทางสวยงามมาก ในที่สุดเราก็มาหยุดอยู่ที่ยอดเขาเนมรุต
เนมรุตเป็นมรดกโลกแห่งหนึ่งของยูเนสโก Unesco World Heritage ที่นี่เป็นสุสานของกษัตริย์แอนติโอกุส Antiochus ของอาณาจักรโคมายานา Commagene (หนึ่งในอาณาจักรที่เกิดขึ้นหลังจากสิ้นยุคของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์) ยอดเขามีลานฝั่งตะวันออกและลานฝั่งตะวันตกที่มีรูปปั้นหินยักษ์หัวขาด ตรงกลางเป็นยอดเขาที่ถูกถมขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นที่ฝังศพที่ยังไม่ถูกค้นพบ ที่ลานฝั่งตะวันออกหัวยักษ์ถูกตั้งเรียงแถวตรงหน้ารูปปั้น มีหัวกษัตย์แอนติโอกุส, นกอินทรี, สิงโตและเทพเจ้าของกรีก, อาร์มีเนีย และเปอร์เซีย เช่น Zeus (ซูส หรือ ซิวส์ เป็นพระบิดาแห่งพระเจ้าและมนุษย์ตามความเชื่อของกรีกโบราณ), Apollo (เทพอพอลโล ของชาวกรีกผู้มีรูปร่างงดงาม เป็นนักดนตรีขับกล่อมทวยเทพบนเขาโอลิมปัส) และ Heracles (เฮราคลีส เป็นบุตรของเทพซูส) แต่ละหัวมีขนาดใหญ่กว่าคนอีก มีทั้งสมบูรณ์และผุพังไปตามกาลเวลา
นอกจากโบราณสถานดังกล่าวแล้ว วิวทิวทัศน์ของที่นี่ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะด้วยอาณาบริเวณที่อยู่บนยอดเขา เราจึงสามารถเห็นวิวทิวเขาและผืนดินแบบพาโนราม่า เมื่อถึงเวลาก็ขับรถลงมาตามทาง ระบบ DAC ที่ช่วยในการลงเขาโดยไม่ต้องเหยียบเบรคก็แสดงประสิทธิภาพได้ไม่บกพร่อง
ไม่นานเราก็มาถึงที่พัก ทานอาหารและเตรียมตัวพักผ่อน เพื่อเตรียมความพร้อมในวันถัดไป ที่คณะคาราวานมีนัดกับเมืองสุดสวยและยอดฮิตอย่าง แคปปาโดเจีย Cappadocia