All New Alphard / Vellfire 2.5 HEV : 4,129,000 – 4,499,000 บาท | นำเข้าโดย Toyota Motor ประเทศไทย

ราคาอย่างเป็นทางการ

• Alphard 2.5 HEV E-FOUR : 4,129,000 บาท
• Vellfire 2.5 HEV E-FOUR : 4,279,000 บาท
• Alphard 2.5 HEV Luxury E-FOUR : 4,499,000 บาท

นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมให้บริการหลังการขาย โดย Toyota Motor Thailand (Official Authorized)

มาพร้อมการรับประกันและบริการดังนี้

• แพ็กเกจขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี (ช่วงปีที่ 6-10) พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
• ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม.เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด
• พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะจนถึง 100,000 กม.

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงใน All New Alphard Vellfire 2023

• Platform และช่วงล่างใหม่
  • ตัวถังเปลี่ยนจาก Monocoque เป็น TNGA
  • ปรับปรุง Shock Absorber และ Coil spring
  • ยางมีการเปลี่ยนใหม่จาก 225/60R17 >> 225/55R19
• เครื่องยนต์ 2.5 เบนซิน Dynamic Force พร้อม Hybrid โดยตัวเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 238 นิวตันเมตร และเมื่อรวมกับตัวมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วจะให้กำลังสูงสุดที่ 250 แรงม้า 
• ระบบความปลอดภัย TSS3 ใหม่ ตรวจจับคนเดินถนน และรถจักรยานได้ และตรวจได้ไกลมากขึ้น

Dimension มิติตัวถัง

Drivetrain ระบบขับเคลื่อน

Engine เครื่องยนต์

2.5 เบนซิน Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 238 นิวตันเมตร ที่ 4,300 – 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 134 แรงม้า 270 นิวตันเมตรรองรับน้ำมันสูงสุด E10 เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ e-CVT และแบตเตอรี่ Ni-MH ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four ประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.9 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO Sticker) 

Suspension ระบบกันสะเทือน

• ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง
• ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโครง
• ระบบเบรคหน้าหลังเป็นแบบ ดิสก์เบรค

ความแตกต่างในแต่ละรุ่นย่อย

ALPHARD 2.5 HEV E-FOUR : 4,129,000 บาท

• พื้นฐานโครงสร้าง TNGA Platform
• ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
• ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
• Daytime Running Light แบบ LED
• ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
• ระบบ Follow-me-Home
• กระจกกันเสียงรบกวน Acoustic Glass
• หลังคา Panoramic sunroof แบบแยกซ้ายขวาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• เบาะหนังแท้ Premium Nappa และหนังสังเคราะห์
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบความจำ 3 ตำแหน่ง
• เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับ 4 ทิศทางและระบบ Seat Ventilator & Heater
• วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้า หุ้มหนังสังเคราะห์และตกแต่งด้วยตะเข็บ
• ไฟ Ambient Light ปรับได้สูงสุด 64 เฉดสี
• เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง 2 ที่นั่ง
  • ปรับไฟฟ้าได้ 10 ทิศทางพร้อมควบคุมผ่าน Tablet
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Premium Nappa
  • พร้อมที่รองน่อง ปรับด้วยไฟฟ้า
  • ระบบบันทึกความจำเบาะนั่ง 2 ตำแหน่ง
  • ระบบระบายอากาศ Seat Ventilator
  • ระบบ Smart Comfort Program
    • My Original
    • Dream
    • Relax
    • Focus
    • Energize
  • ระบบนวด Massage Relaxation
• สวิตซ์ควบคุมเบาะนั่งแถวที่ 2 บริเวณที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
• เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกอิสระ 50 : 50 พับเก็บแบบแขวน
• เบาะนั่งแถวที่ 3 เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้
• เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับเอนได้
• ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารสำหรับห้องโดยสารตอนหน้า

VELLFIRE 2.5 HEV E-FOUR : 4,279,000 บาท (เพิ่มเติมจากรุ่น ALPHARD 2.5 HEV)

• ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
• ยาง ขนาด 225/55 R19
• ดีไซน์ด้านหน้า – ไฟหน้า แบบสปอร์ต เฉพาะรุ่น Vellfire
• ดีไซน์ด้านหลัง – ไฟท้าย แบบสปอร์ต เฉพาะรุ่น Vellfire

ALPHARD 2.5 HEV LUXUARY E-FOUR : 4,499,000 บาท (เพิ่มเติมจากรุ่น VELLFIRE 2.5 HEV)

• วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้า หุ้มหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยตะเข็บ และลายไม้ Uzuramoku
• เบาะนั่งผู้โดยสายตอนหลัง 2 ที่นั่ง แบบ Executive Lounge ปรับไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง
• ระบบ Smart Comfort Program และระบบนวด Massage
• หน้าจอควบคุมด้านหลัง Detachable Tablet
• ระบบฟอกอากาศ – ปรับสมดุลอากาศ Nano X สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

Interior ภายในห้องโดยสาร

• เบาะผู้โดยสารแถวสาม 3 ที่นั่งปรับธรรมดา 4 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนและแยกผักเก็บแบบแขวนได้
• จอแสดงผลผู้ขับขี่แบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้วพร้อมจอ HUD แบบสี
• เบรกมือไฟฟ้า
• ระบบหน่วงเบรก
• โหมดการขับขี่แบบ EV/ Normal/ ECO
• วิทยุ AM/FM พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว
• ระบบนำทาง Navigation System
• ระบบเชื่อมต่อ T-Connect Telematics
• ระบบเสียงรอบทิศทางลำโพง JBL 15 ตำแหน่ง
• Wireless Apple Carplay/ Android Auto
• USB 2 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลกลาง และ 1 ตำแหน่งในช่องเก็บของคอนโซลกลาง
• USB 4 ตำแหน่ง บริเวณเบาะผู้โดยสารแถวสองและแถวสาม
• Wireless Charger
• ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 4 โซน พร้อมระแบบหมุนเวียนอากาศแบบอัตโนมัติ สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และช่องปรับอากาศส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร
• กระจกมองหลังแบบดิจิตอล
• ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิสต์
• ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า

Safety ระบบความปลอดภัย

• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรก BA
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
• ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
• ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Safe Exit Assist
• ระบบ Toyota Safety SENSE
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Warning With Steering Assist
  • ระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Tracing Assist
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed Stop & Go
  • ระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง เมื่อเปิดระบบ Dynamic Radar Cruise Control
• ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS
• ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC
• กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor
• ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
  • คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
  • ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
  • ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
• จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
• เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง
• เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
• ระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อม Speed Auto Lock
• กล้องบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้า – ด้านหลัง Camera Recorder แบบ Built-in

การตกแต่งภายในมีให้เลือก 3 สี (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

Alphard 2.5 HEV E-Four

• สีเบจ Neutral Beige
• สีดำ Black
• สีน้ำตาล Sunset Brown

Vellfire 2.5 HEV E-Four

• สีดำ Black

Alphard 2.5 HEV Luxury E-Four Executive Lounge

• สีดำ Black
• สีน้ำตาล Sunset Brown

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 3 สี

• สีดำ Black
• สีขาว Platinum White Pearl
• สีเทา Precious Metal