เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP35 : “ออราเดีย, โรมาเนีย-บูดาเปสต์, ฮังการี”
โดย : โบ๊ท-มหาสมุทร สายสวรรค์
วันที่ 11 กรกฏาคม 2559 : เตรียมข้ามประเทศกันอีกครั้ง แต่ความวุ่นวายอะไรมันจะไม่มีอีกต่อไป เพราะในเวลานี้ชาวคณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ได้เข้ามาสู่สหภาพยุโรป Eu zone หลายวันแล้ว
วันนี้เราจะมุ่งหน้าสู่อีกเมืองที่สำคัญของประเทศฮังการี Hungary นั่นคือเมืองบูดาเปสต์ Budapest ซึ่งเป็นเมืองหลวง และเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของประเทศ ในหลายด้านๆ โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในเมืองที่คนไทยนิยมไปพอสมควร ชาวคณะคาราวานเริ่มออกตัวแต่เช้าเช่นเคย ถึงแม้ระยะทางจะไม่ไกล แต่เราก็อยากมีเวลาสัมผัสเมืองบูดาเปสต์
ออกจากเมืองออราเดีย Oradea มาด้วยเส้นทางที่เรียบๆ แต่สวยงามตามแบบฉบับโรมาเนีย และใช้เวลาไม่นานนัก ก็มาถึงชายแดนขาออกของประเทศ ซึ่งไม่ได้มีพิธีอะไร แค่ตรวจพาสปอร์ตนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยเข้าสู่ประเทศฮังการีอย่างชิลๆ…ในทางเดียวกัน ชายแดนของประเทศฮังการี ก็แค่ตรวจวีซ่าและพาสปอร์ตเท่านั้น เราใช้เวลาไวกว่าที่คาดหวังก็ผ่านมาได้ และขอต้อนรับชาวคณะคาราวานเข้าสู่ประเทศฮังการีอย่างเป็นทางการ
ฮังการี หรือ สาธารณรัฐฮังการี Republic of Hungary เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อยู่ในยุโรปกลาง มีอาณาเขตจรดประเทศออสเตรีย สโลวาเกีย ยูเครน โรมาเนีย เซอร์เบีย โครเอเชีย และสโลวีเนีย ในท้องถิ่นเป็นที่รู้จักว่า ประเทศของชาวแมกยาร์ Country of the Magyars ฮังการีเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประวัติอย่างยาวนาน โดยมีเมืองหลวงคือกรุงบูดาเปสต์ ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปชมกันครับ
จากชายแดน เราขับมาตามทาง จนกระทั่งเข้าสู่ถนนไฮเวย์ 4 เลน ที่สามารถทำความเร็วได้พอสมควร ชาวคณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน จึงมีการทำความเร็วอย่างต่อเนื่องบนทางด่วน ภายใต้การจำกัดความเร็วในบางจุด ซึ่งการทำความเร็วแบบต่อเนื่องนี้ เป็นเรื่องดีที่เจ้ารีโว่มีระบบช่วงล่าง ระบบพวงมาลัย และเครื่องยนตร์ที่ลงตัว ทำให้ผู้ขับไม่เครียดกับการทำความเร็วแบบนี้ รวมไปถึงกระจกมองข้างขนาดใหญ่ ที่สะท้อนภาพได้ชัดและไม่หลอกตา ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเปลี่ยนเลนขณะวิ่งด้วยความเร็วได้เป็นอย่างดี การเดินทางเป็นไปอย่างสวยงามตามท้องเรื่อง จนกระทั่งมาถึงที่หมาย กรุงบูดาเปสต์
“บูดาเปสต์” เป็นนครหลวงของประเทศฮังการี ที่รวมเอาสองเมืองเข้าด้วยกัน คือเมือง “บูดา” กับเมือง “เปสต์” รวมกันเมื่อ พ.ศ.2416 (ค.ศ.1873) บูดาเปสต์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีความงดงามติดอันดับโลก จนได้รับสมญานามว่า “บูดาเปสต์ ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ด้วยเพราะทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ Danube หรือที่คนฮังกาเรียนเรียกขานว่า ดูนา Duna เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านกลางเมือง
ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำดานูบมีภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เรียกว่าฝั่งบูดา Buda เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง สถาปัตยกรรมโบราณ และศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ส่วนฝั่งเปสต์ Pest มีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นราบ เป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของเมือง นี่คือสเน่ห์ของสองฟากฝั่งที่แตกต่าง แต่ผสมผสานความเป็นเมืองกันได้ อย่างลงตัว
เรามาถึงช่วงบ่าย จากนั้นชาวคณะคาราวาน ก็ได้นำรถกระบะคุณภาพจากแดนไทยข้ามสะพาน Chain bridge ซึ่งเป็นสะพานหลักของเมืองที่ทอดข้ามแม่น้ำดานูบ ทำหน้าที่เชื่อมสองฝั่งของเมืองเข้าหากัน…ผ่านถนนและอาคารต่างๆ ในกรุงบูดาเปสต์ แล้วมุ่งหน้าสู่ด้านบนของฝั่งเมืองเก่า เข้าสู่โรงแรมโรงแรมฮิลตันบูดาเปสต์ Hilton Budapest ที่อยู่ภายในพื้นที่ของจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง
เมื่อเก็บของเสร็จ เราเริ่มสำรวจเมืองที่จุดท่องเที่ยวหลักด้านหน้าโรงแรม นั่นจุดที่เรียกว่าป้อมปราการชาวประมง Fisherman Bastion ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2448 (ค.ศ.1905) โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน สร้างขึ้นไว้เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมือง ในคราวที่ถูกพวกมองโกลเข้ามารุกรานเมื่อปี พ.ศ.1784-1785 (ค.ศ.1241-1242) บนป้อมชาวประมงนี้เป็นจุดชมวิวรอบเมืองบูดาเปสต์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
จากนั้นก็ปล่อยอิสระกัน บ้างก็ไปชอปปิ้ง บ้างก็ไปเดินเล่น การเดินเลียบแม่น้ำดานูบในช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เป็นอะไรที่ฟินไม่น้อย กับภาพพระอาทิตย์ที่ค่อยๆเคลื่อนตัวคล้อยต่ำลงด้านหลังป้อมปราการชาวประมง แสงสีส้มอ่อนๆ ค่อยเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนรอคอย กับภาพ The parliament หรืออาคารรัฐสภาเปิดไฟสว่างจ้า โดยมีแม่น้ำดานูบทอดยาวเป็นฉากหน้า สวยงามจริงๆ
อาคารรัฐสภาฮังการี Hungary Parliament เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันตระการตาที่ไม่ควรพลาด หลายๆคนบอกว่านี่คืออาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก ตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ดูคลาสสิคด้วยหลังคาสีแดง อาคารแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2428 (ค.ศ.1885) และใช้เวลากว่า 20 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนพักผ่อน เตรียมเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเรามีภารกิจขับรถผ่านข้ามแดนถึง 5 ประเทศภายในวันเดียว ว่าซั่น!!