เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP17
โดย : โบ๊ท-มหาสมุทร สายสวรรค์
แฟนๆครับ ยุคหลังที่เติร์กแยกจากสหภาพโซเวียตโซเซียลิส มาเป็นประเทศเติร์กเมนิสถาน มีผู้นำประเทศท่านหนึ่งชื่นชอบสีขาว ทำอะไรต้องขาวโบ๊ะ การสร้างบ้านแปลงเมืองจึงใช้หินอ่อนอิตาลีเยอะมาก ผลมุมหนึ่งคือเอาแต่ใจ เอาตามที่กูว่า อีกมุมคือความสวยงาม เป็นคุณนายสะอาดทั้งเมือง โปรดตามชม ก่อนที่เราจะข้ามประเทศ..อีกแล้ว
รณชิต เฉลิมชาติ เด็กสร้างของพ่อไกรสิงห์และแม่บุญเรือง
อ่าน เรื่องเก่าเล่าใหม่ EP16 “บูคารา, อุซเบกิสถาน-มารี, เติร์กเมนิสถาน”
วันที่ 23 มิถุนายน 2559 : วันนี้เป็นวันที่ 21 ของการเดินทางจากบางกอกมาสู่เอเซียกลาง ได้เวลาชาวคณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก จะมุ่งหน้าสู่เมืองอาชกาบัต Ashgabad เมืองหลวงของประเทศเติร์กเมนิสถาน Turkmenistan กันแล้วครับ
เช้าวันนี้ ความเร่งรีบที่มีไม่ได้มากมายนัก เราออกเดินทางสายกว่าเดิมนิดหน่อย โดยแวะตุนน้ำมันเต็มถังทุกคัน จากนั้นก็ล้อหมุนอีกครั้ง ผ่านอาคารบ้านเรือนต่างๆ สิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปคือ คนที่ยืนโบกรถ อันนี้คือวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนประเทศนี้ (ที่อุซเบกิสถานก็เป็นแบบนี้) ที่สามารถโบกรถทุกคันที่ผ่านทาง คันไหนอยากจอดรับก็รับ แล้วก็หารค่าโดยสารกันด้วยความสมัครใจและเชื่อใจกัน หาได้ยากนะครับ มีไม่กี่ประเทศที่ทำแบบนี้ได้ เพราะเอาจริงๆ โดยรวมถือว่าอันตรายเหมือนกัน หากอยู่ในประเทศที่มีอาชญกรรมเยอะๆ แต่ที่นี่ไม่เลย
เส้นทางวันนี้ไม่ต่างจากเมื่อวาน ทางลาดยางที่ชำรุดขรุขระ ทางตรงยาวๆ มีทางฝุ่นบ้าง และอากาศจัดว่าร้อนอีกครั้ง หลายๆคนได้เตรียมโค้กแช่ไว้ใน cool box หรือช่องเย็นตรงที่เก็บของบริเวณด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร เมื่อถึงจุดแวะพักก็ได้เวลาหยิบมาดื่ม เติมความสดชื่นเย็นๆ กลบอากาศร้อนๆในวันนี้ จากนั้นออกเดินทางกันต่อ ทดสอบสมรรถนะช่วงล่าง ทั้งความนุ่มนวล และความทนทาน กันไปตลอดทาง และในที่สุดคณะคาราวานก็มาถึงเมืองอาชกาบัต Ashgabad เมืองหลวงของประเทศ
ตามธรรมเนียม..เพื่อนใหม่ยังต้องแนะนำตัว นับประสาอะไรกับเมืองนี้ ที่หลายๆคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อครั้งแรก
เมืองอาชกาบัต เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเติร์กเมนิสถาน สำรวจเมื่อปี พ.ศ.2544 มีประชากรราวๆ 7แสนคน โดยมีจุดเริ่มต้นคือ หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ได้มีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ ขนาดใหญ่ใต้ผืนแผ่นดิน จึงเป็นที่มาของเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ส่งผลให้ประเทศนี้กลายเป็นเศรษฐี ไปเลย
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการก่อสร้างอารยธรรมใหม่ๆ ให้กับประเทศ โดยเฉพาะเมืองนี้ ที่มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนสำนักงาน และสถานที่ราชการอย่างสวยงามอลังการ มองไปทางไหนก็ขาวใสบริสุทธ์ เพราะมีการนำเข้าหินอ่อนสีขาวมาจากอิตาลี เพื่อมาใช้เป็นวัสดุหลักในงานสถาปัตยกรรมในเมืองหลวงนั่นเอง เว่อวังอลังการมาก แค่แว็บแรกที่ได้เข้ามาถึงเมือง เราก็ตะลึงทึ่งไปกับความโอ่อ่า ความสะอาดของบรรยากาศ และอาคารบ้านเรือนที่ทำมาจากหินอ่อน คือไม่ใช่แค่หลังสองหลัง
นี่คือทั้งเมือง ทุกอาคาร แม้กระทั่งป้ายรถเมล์ก็ทำมาจากหินอ่อน แถมยังติดแอร์เสียด้วย!! ธรรมดาที่ไหน พิเศษเพิ่มลูกชิ้นกันไปเลย โคมไฟรายทางก็เรียงรายกันอย่างเข้ารูป สวยงาม คณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ขับไปตามทางเรื่อยๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่แปลกตาแต่ โดนใจทุกคน บางอาคารก็มียอดโดมสีทองและสีน้ำเงินเข้ามาเพิ่มเติมความสวยงาม
เวลาบ่ายกว่าๆ เราจึงแวะทานข้าวกันก่อน เป็นร้านอาหารท้องถิ่นคุณภาพดีอีกครั้ง เมนูเป็นข้าวผัดกับเนื้อแกะรสดี จากนั้นก็เดินทางไปโรงแรมพักผ่อนตามอัธยาศัยในช่วงบ่ายแก่ๆ ที่แดดยังคงร้อนระอุ ระดับอุณหภูมิ 40 กว่าองศา ไกด์ท้องถิ่นนัดเราอีกครั้งในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เพื่อที่จะไปซิตี้ทัวร์กัน ช่วงนี้ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย และพบว่าเล่นเฟสไม่ได้!! เรียกว่าสายโซเชี่ยลชุลมุนกันใหญ่เลยครับ ซึ่งบางกลุ่มก็พักอยู่โรงแรม บางกลุ่มก็ออกไปเดินเล่นตลาดหลักประจำเมืองซึ่งอยู่ใกล้ๆที่พัก มีสินค้าให้เลือกแทบจะครบรส ตั้งแต่เครื่องใช้ส่วนตัว ผงซักฟอก กางเกงใน ผ้าเช็ดตัว ของสด ขนมปัง มือถือ ขนมเรียกว่าครบ..พะนะ
จนกระทั่งเวลา 6 โมง ก็ไปตามนัดที่ลอบบี้ คณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ได้ขึ้นรถบัสเพื่อที่จะไปทัวร์เมือง เราผ่านอนุสาวรีย์ที่มีรูปม้าอยู่ บางคนก็เกิดความสงสัยว่าทำไมต้องเป็นม้า นั่นก็เพราะว่า ม้าที่นี่จัดว่าเป็นหนึ่งในม้าพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลกนั่นเอง วิ่งเร็ว อดทน เหงื่อออกเป็นสีชาด (สีแดง) จากนั้นก็ผ่านอาคารสำคัญมากมาย ซึ่งมีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเมืองนี้ที่หลายๆคนเพิ่งรู้ นั่นก็คือประเทศเติร์กเมนิสถาน ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์
ที่รู้ก็ไม่ได้เก่ง แต่รู้เพราะเขาพาไปชมสนามแข่ง ถือว่าดูดีมาก จากนั้นก็ไปเก็บภาพกันต่อที่อนุสาวรีย์ และอนุสรณ์สถานประจำเมือง ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ไม่ไกลกับชิงช้าสวรรค์หินอ่อน ฝั่งตรงข้ามยังมีอาคารกระทรวงศึกษาธิการ ที่ออกแบบอาคารเป็นรูปหนังสือที่กำลังเปิด ถัดไปก็มีอาคารของกระทรวงการต่างประเทศที่มีลูกโลกเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาคาร เป็นไงล่ะ ไอเดียพี่เค้าธรรมดาที่ไหน?
อาหารเย็นวันนี้เราจะไปทานที่อาคารด้านบน ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมืองสวยๆ อีกด้วย เป็นอาหารท้องถิ่น มีสเต็กปลารสดีมาเป็นเมนคอร์ส ก่อนจะไปตบท้ายวันกันด้วยแสงไฟสวยๆ หลากสีสันจากภายในเมือง แล้วก็แยกย้ายเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เป็นอีกครั้ง ที่เราจะข้ามประเทศอีกแล้วววว ไปไหนต้องตามมาดู !!
